Cookie & Privacy Policy

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(Personal Data Protection Policy)

บริษัท ยูเนี่ยนไมครอนคลีน จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้ถือหุ้น คู่ค้า กรรมการ บุคลากรของบริษัท และบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าบุคคลดังกล่าวจะได้รับความคุ้มครองสิทธิอย่างครบถ้วนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัตินโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้บริษัทมีหลักเกณฑ์ มาตรการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตั้งแต่การเก็บรวบรวบ นำไปใช้ เปิดเผย รวมถึงการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความมั่นคงปลอดภัย โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้

1. ขอบเขตการบังคับใช้

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ใช้บังคับกับบริษัท บุคลากรของบริษัท และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท

2. คำนิยาม

“บริษัท” หมายถึง บริษัท ยูเนี่ยนไมครอนคลีน จำกัด “การประมวลผล (Processing)” หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม บันทึก จัดทำระบบ ทำโครงสร้าง เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กู้คืน นำไปใช้ เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน ผสมเข้าด้วยกัน ลบ ทำลาย

  • “ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data)” หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
  • “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject)” หมายถึง บุคคลธรรมดาที่ข้อมูลส่วนบุคคลสามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
  • “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • “ผู้ประมวลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor)” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
  • “เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Officer)” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือ คณะบุคคลซึ่งบริษัทแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

3. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ด้านการกํากับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Governance)
  • 3.1 บริษัทจัดให้มีโครงสร้างการกํากับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดวิธีการและมาตรการที่เหมาะสมในการปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนี้

    (1) กำหนดบทบาท ภารกิจ และความรับผิดชอบของหน่วยงานและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เพื่อสร้างกลไกการกำกับดูแลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

    (2) แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท (Data Protection Officer : DPO) โดยมีบทบาทและหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด

  • 3.2 บริษัทจัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติ รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องตามที่กฎหมายกำหนด
  • 3.3 บริษัทจัดให้มีกระบวนการบริหารจัดการในการปฏิบัติตามนโยบาย เพื่อควบคุมดูแลให้มีการปฏิบัติ ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
  • 3.4 บริษัทจะดำเนินการฝึกอบรมบุคลากรของบริษัท เพื่อให้ทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

4. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ด้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Processing)
  • 4.1 บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เป็นธรรม และโปร่งใส โดยบริษัทจะดำเนินการรักษาความลับ ความถูกต้องสมบูรณ์ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ
  • 4.2 บริษัทจะจัดทำบันทึกการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Records of Processing Activities : ROPA) สำหรับบันทึกรายการและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • 4.3 บริษัทจะจัดให้มีแบบแจ้งนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Notice) สำหรับผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น คู่ค้า บุคลากรของบริษัท และบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท แบบให้ความยินยอม (Consent Form) และเอกสารอื่น ๆ ตามที่กฏหมายกำหนด
  • 4.4 กรณีที่บริษัทส่ง โอน หรือให้บุคคลอื่นใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะจัดทําข้อตกลงกับผู้ที่รับหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เพื่อกำหนดสิทธิและหน้าที่ให้สอดคล้องกับกฎหมาย
  • 4.5 กรณีที่บริษัทต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมาย
  • 4.6 บริษัทจัดให้มีระบบการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการลบ หรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา

5. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ด้านการรองรับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Rights) บริษัทจะจัดให้มีมาตรการ ช่องทาง และวิธีการ เพื่อรองรับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและตอบสนองต่อคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

6. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล : ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Security)

  • 6.1 บริษัทจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพ เพียงพอ เหมาะสม และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทโดยมิชอบ รวมทั้งจัดให้มีการทบทวนและตรวจสอบมาตรการดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ
  • 6.2 ทุกหน่วยงานในบริษัทต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากมีเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต้องแจ้งเหตุนั้นต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุ หากการละเมิดนั้นเป็นการละเมิดที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งเหตุนั้นให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ

7. บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ

    คณะกรรมการบริษัท

  • มีหน้าที่กำกับดูแลและสนับสนุนให้บริษัทดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับกฎหมาย
  • กรรมการผู้จัดการ

  • มีหน้าที่ติดตาม ควบคุมให้ทุกหน่วยงานที่ดูแลปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้ให้เกิดขึ้นกับพนักงานของบริษัท
  • เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)

  • มีหน้าที่ให้คำแนะนำ คำปรึกษา และตรวจสอบการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด รวมถึงทำหน้าที่ประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.)
  • พนักงานของบริษัท

  • มีหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ให้สอดคล้องกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และรายงานเหตุการณ์ผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

8. การทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนและปรับปรุง หรือแก้ไขนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกฏหมาย การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมถึงข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่บริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย โดยบริษัทจะประกาศให้ทราบผ่านทางเว็บไซต์ของทางบริษัท www.unionmicronclean.com

9. บทลงโทษ

การไม่ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท อาจมีความผิดและถูกลงโทษทางวินัย รวมทั้งอาจได้รับโทษตามที่กฎหมายกําหนด

ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

  • เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO)
  • อีเมล์ dpo@unionmicronclean.com
  • บริษัท ยูเนี่ยนไมครอนคลีน จำกัด
  • 205 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10280

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ใช้บังคับกับบุคลากรทุกระดับของบริษัท รวมถึงกรรมการและผู้บริหารของบริษัท โดยทุกคนต้องเข้าใจและปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้ รวมทั้งให้ความร่วมมือและสนับสนุนให้เกิดการปฏิบัติอย่างจริงจังทั่วทั้งองค์กร โดยมีรายละเอียดแบบแจ้งนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ในแต่ละวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือเปิดเผย สำหรับ กรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น คู่ค้า บุคลากรของบริษัท และบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท แบบให้ความยินยอม (Personal Data Protection Consent Form) และเอกสารอื่น ๆ แนบท้ายประกาศนี้

ประกาศ ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2565


Consent From

แบบแจ้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับคู่ค้า บริษัท ยูเนี่ยนไมครอนคลีน จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ คู่ค้า เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าบุคคลดังกล่าวจะได้รับความคุ้มครองสิทธิอย่างครบถ้วนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติแบบแจ้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับคู่ค้า เพื่อให้บริษัทมีหลักเกณฑ์ มาตรการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตั้งแต่การเก็บรวบรวบ นำไปใช้ประมวลผล เปิดเผย รวมถึงการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความมั่นคงปลอดภัย โดยมีสาระสำคัญกับเว็บไซต์ www.unionmicronclean.com ใช้คุกกี้และเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดี

1. คำนิยาม

เว็บไซต์ ซึ่งหมายถึง www.unionmicronclean.com คู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลธรรมดาคนหนึ่งคนใด ผู้ให้-รับบริการ หรือ ตัวแทนนิติบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะ ผู้ซึ่งปรากฏในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ เช่น กรรมการผู้จัดการ พนักงาน ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ คู่สัญญา ผู้รับคำสั่งซื้อ ผู้ส่งสินค้า ผู้วางบิล-รับเช็ค ผู้ใช้งานเว็บไซต์ เป็นต้น

คุกกี้ ซึ่งหมายถึง คุกกี้คือไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์จัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ของท่าน (เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือ) เมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ คุกกี้ช่วยให้เว็บไซต์จดจำข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานของท่าน และ/หรือสินค้าที่อยู่ในตะกร้าสินค้า

2. วัตถุประสงค์ของการเก็บและประมวลผลข้อมูล

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกใช้โดยบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • 2.1 เพื่อการติดต่อหรือสื่อสารกับท่านโทรศัพท์/ข้อความเสียง การส่งข้อความ และ/หรือ การส่งข้อความทางโทรสารอีเมล์ และ/หรือ การส่งจดหมายทางไปรษณีย์ และ/หรือ ใบจดบันทึกสัดส่วน ฐานทางกฎหมาย : ฐานของการยินยอมของเจ้าของข้อมูล ระยะเวลาจัดเก็บ-ทำลาย :3 ปีหลังจากสิ้นสุดการให้-รับบริการ
  • 2.2 เพื่อการยื่นข้อเสนอเข้าทำสัญญา/โครงการ ลงทะเบียนคู้ค้ารายใหม่ และ/หรือ ลงทะเบียนจัดซื้อจัดจ้างซัพพลายเออร์รายใหม่ ฐานทางกฎหมาย ฐานทางกฎหมาย: ฐานของการทำสัญญา ระยะเวลาจัดเก็บ-ทำลาย : 3 ปีหลังจากสิ้นสุดการให้-รับบริการ
  • 2.3 เพื่อเป็นข้อมูลการออกหนังสือมอบอำนาจดำเนินการกับกรมศุลกากรการทำใบขนสินค้าขาออกและ/หรือใบกำกับการขนย้ายสินค้า ฐานทางกฎหมาย: ฐานของการทำสัญญา ระยะเวลาจัดเก็บ-ทำลาย : 6 เดือนหลังจากสิ้นสุดการให้-รับบริการ
  • 2.4 เพื่อสำหรับพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพแบบประเมินความพึงพอใจในสินค้าและบริการ ฐานทางกฎหมาย: ฐานของการยินยอมของเจ้าของข้อมูล ระยะเวลาจัดเก็บ-ทำลาย : 3 ปีหลังจากสิ้นสุดการให้-รับบริการ
  • 2.5 เพื่อส่งคำร้องขอการดำเนินธุรกรรมทางธนาคารกับธนาคาร และบริษัทฯ จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อธนาคาร เพื่ออำนายความสะดวกในการดำเนินธุรกรรม เงินสด และ/หรือ โอนเงิน และ/หรือ ICASH และ/หรือ การรับวางบิล และ/หรือ การจ่ายชำระหนี้ ฐานทางกฎหมาย: ฐานของการทำสัญญา ระยะเวลาจัดเก็บ-ทำลาย : 10 ปี
  • 2.6 การปฏิบัติตามหรือเพื่อให้เป็นไปตามคำร้องขอ หรือคำสั่งของหน่วยงานราชการใดๆ หรือเพื่อตอบสนองต่อคำร้องขอข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง กระทรวงต่างๆ คณะกรรมการตามกฎหมาย หรือหน่วยงานอื่นในทำนองเดียวกัน กับการยืนแบบภาษีเงินได้ และ/หรือ แบบภาษีหัก ณ ที่จ่าย และ/หรือ ภาษีขาย ภพ.30 ฐานทางกฎหมาย: ฐานของการทำสัญญา ระยะเวลาจัดเก็บ-ทำลาย : 10 ปี
  • 2.7 เราใช้คุกกี้เพื่อให้การให้การทำงานของเว็บไซต์ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
  • 2.8 เราใช้คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้ใช้มีการใช้งานเว็บไซต์อย่างไร และปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น

3. ประเภทของข้อมูล การเก็บรวบข้อมูลส่วนบุคคล การใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกใช้โดยบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • 3.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ลายมือชื่อ เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง สัญชาติ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีและเลขประจำตัวกองทุนประกันสังคม รูปถ่าย หรือ วีดีโอ สัดส่วนร่างกาย
  • 3.2 ข้อมูลเพื่อการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ตามบัตรประชาชนชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน สถานที่จัดส่งสินค้า เบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรศัพท์มือถือ เบอร์แฟกซ์ อีเมล์ ไอดีไลน์
  • 3.3 ข้อมูลเกี่ยวกับชำระเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคารบริษัทฯ ไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมข้อมูลอื่น ๆ นอกเหนือจากที่จำเป็นต่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูล หรือข้อมูลอื่นใดนอกเหนือไปจากข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ระบุไว้ แล้วข้างต้น ถึงแม้ว่าข้อมูลดังกล่าวจะปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านได้สมัครใจเปิดเผยไว้ต่อบริษัทฯ

4. การเก็บใช้ ประมวลผลข้อมูล เปิดเผย การโอนข้อมูล

บริษัทฯ จัดเก็บใช้ ประมวลผลข้อมูล เปิดเผยและ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล และกำหนดสิทธิข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือป้องกันกันการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ โดยบริษัทฯโอนข้อมูลส่วนบุคคลกับกรมศุลกากรของตัวแทนบริษัทดำเนินการติดต่อประสานงาน และ/หรือการทำใบขนสินค้า และ/หรือใบกำกับการขนย้ายสินค้า และ/หรือกรมสรรพกรเพื่อการอำนวยความสะดวก และ/หรือ ควบคุมดูแลเกี่ยวกับข้อกำหนดในเรื่องภาษีอากร ข้อเรียกร้อง การหักรายจ่าย และ/หรือดำเนินธุรกรรมกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลหรือตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ในระบบของบริษัทฯ

6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า

สิทธิข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้กำหนดสิทธิดังต่อไปนี้แก่เจ้าของข้อมูลดังนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขภายใต้ขอบเขตที่ได้รับอนุญาติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  • 6.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนส่วนบุคคล : ท่านมีสิทธิในการจะได้รับข้อมูลต่าง ๆ อันเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทถืออยู่และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
  • 6.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านมีสิทธิจะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
  • 6.3 การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการที่จะร้องขอให้ทางบริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านให้ เป็นปัจจุบันและครบถ้วนสมบูรณ์
  • 6.4 การลบหรือเพิกถอนความยินยอมข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยิมยอมที่ท่านได้ให้ไว้ ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด อย่างไรก็ดี การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวอาจก่อให้เกิดผลทางกฎหมายจากการเพิกถอนดังกล่าวได้ อนึ่ง กรณีดังกล่าวขึ้นอยู่กับขอบเขตของการเพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทฯ ในการดำเนินการใดๆเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ อาจหมายถึงกรณีบริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินความสัมพันธ์คู่ค้ากับท่านต่อไปได้ หากท่านประสงค์ที่จะเพิกถอนความยินยอมของท่านในบางส่วนหรือทั้งหมด กรุณาส่งแบบฟอร์มถอนความยินยอมกับเจ้าหน้าคุ้มครองข้อมูล
  • 6.5 ปฏิเสธการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการปฏิเสธการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ทั้งนี้ต้อง ไม่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • 6.6 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

7. ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)

บริษัท ยูเนี่ยนไมครอนคลีน จำกัด : อีเมล์ dpo@unionmicronclean.biz 205 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10280

แบบให้ความยินยอม (Personal Data Protection Consent Form)

ชื่อบริการ คำขอความยินยอมให้มีการจัดเก็บใช้ ประมวลผลข้อมูล เปิดเผย โอนข้อมูล

บริษัท ยูเนี่ยนไมครอนคลีน จำกัด มีความจำเป็นในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ของการเก็บและประมวลผลของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลท่านมีความสำคัญต่อบริษัทฯ และแบบแจ้ง การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) มีข้อความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับการที่บริษัทฯ จะทำการและ/หรืออาจทำการเก็บใช้ ประมวลผลข้อมูล เปิดเผย โอนข้อมูลดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้ หรือข้อมูลที่บริษัทฯ ครอบครองไว้เกี่ยวกับท่าน

การลงลายมือชื่อของท่านแสดงให้เห็นว่าท่านให้ความยินยอมและความตกลงต่อการที่บริษัทฯ จะทำการและ/อาจทำการเก็บ ใช้ และดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุไว้ในเอกสาร แบบแจ้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่ในกรณีมีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมายหรือยังมีสัญญาระหว่างบริษัท ยูเนี่ยนไมครอนคลีน จำกัด ที่ให้ประโยชน์อยู่ ท่านสามารถติดต่อเพื่อขอแบบฟอร์มถอนความยินยอมกับเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อีเมล์ dpo@unionmicronclean.biz

ข้าพเจ้ายินยอมที่จะให้บริษัทฯจัดเก็บใช้ ประมวลผลข้อมูล เปิดเผย โอนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามทีได้กล่าวไว้ในแบบแจ้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice และ Consent From ผ่านการกด Accept )